วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สถานการณ์ปัญหา ที่ 3


สถานการณ์ที่ 3




ในปี พ.ศ.2500 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้ส่งดาวเทียม สปุตนิก เป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกขึ้นไปโคจรรอบโลก เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศของโลกนับเป็นการก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ในยุคนั้น และนับว่าเป็นการริเริ่มเทคโนโลยีต่างๆในปัจจุบันอย่างมากมาย จบการนำเสนอข่าวช่วงวันนี้ในอดีตเพียงเท่านี้ค่ะ ติดตามข่าวในช่วงต่อไปเวลา 12.00 นาฬิกา
          หลังจบการนำเสนอข่าวเรื่องดาวเทียม ก้านแก้ว จึงเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดาวเทียมเมื่ออยู่ในชั้นบรรยากาศจะมีการโคจรอย่างไรจึงถาม คุณพ่อด้วยความสงสัย ก้านแก้ว คุณพ่อค่ะดาวเทียมมีการโคจรในชั้นบรรยากาศของโลกเราอย่างไรคะ แล้วหนูเคยได้ยินเรื่องดาวเทียมค้างฟ้าค่ะ คุณพ่อช่วยอธิบายให้หนูฟังได้ไหมคะ
          ถ้านักเรียนเป็นคุณพ่อของก้านแก้ว นักเรียนจะตอบข้อสงสัยของก้านแก้วว่าอย่างไร

ภารกิจ
1. ให้นักเรียน อธิบายหลักการการเคลื่อนที่จากสถานการณ์ปัญหาของก้านแก้ว
2. ให้นักเรียนอธิปรายและร่วมกันสรุปเป็นแผนผังความคิด (Mind map) การเคลื่อนที่ที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง
3. ให้นักเรียนออกมานำเสนอ แนวคิด หลักการการเคลื่อนที่ จากสถานการณ์หน้าชั้นเรียน



สถานการณ์ปัญหา ที่ 2

สถานการณ์ปัญหา 2


                เย็นวันเสาร์ ณ บ้านสวนของ อะลาดิน ที่อยู่ห่างไกล ออกมาจากตัวเมืองพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบรูณ์ของป่าไม้ ท้องนาเขียวขจี ดอกไม้ริมทางที่โบกพลิ้วตามสายลมอย่างมีชีวิต อะลาดีนเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ เป็นเด็กดี ขยันเรียน  ทำงานบ้านช่วยพ่อกับแม่เป็นประจำ โดยวันนี้ อะลาดีนก็ได้รับมอบหมายจากพ่อกับแม่ให้ดูแลน้องชายที่มีนิสัย ซุกซน ช่างพูด ช่างถาม และขี้สงสัย เพราะพ่อกับแม่ต้องนำผลไม้ที่สวนไปขายที่ตลาด ในขณะที่อะลาดีน ทำงานบ้านเรียนร้อยแล้วเหลือเพียงอีกหนึ่งภาระกิจคือการรดน้ำดอกไม้ที่สวนจึงพาน้องชายไปด้วยขณะที่อาลาดีน กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่นั้น แจ็คผู้เป็นน้องชายจึงเกิดความสงสัยเลยเอยถาม อะลาดิน ว่า ทำไมเวลาที่เรารดน้ำต้นไม้แล้วน้ำที่ออกจากสายยางถึงมีการโค้งแล้วค่อยไปถึงต้นไม้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
          จากสถานการณ์ถ้านักเรียนเป็นอะลาดีน นักเรียนจะตอบข้อสงสัยของแจ็คว่าอย่างไร

ภารกิจ
1. ให้นักเรียน อธิบายหลักการการเคลื่อนที่จากสถานการณ์ปัญหาของอะลาดีน
2. ให้นักเรียนอธิปรายและร่วมกันสรุปเป็นแผนผังความคิด (Mind map) การเคลื่อนที่ที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง

3. ให้นักเรียนออกมานำเสนอ แนวคิด หลักการการเคลื่อนที่ จากสถานการณ์หน้าชั้นเรียน



สถานการณ์ปัญหา ที่ 1


สถานการณ์ปัญหา 1




         เช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส ณ บ้านของ หนูแอนและหนูนาทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน วันนี้เป็นเช้าที่คึกคักเป็นพิเศษ หนูแอนกำลังช่วยคุณแม่เตรียมอาหารและหนูนาก็ช่วยคุณพ่อเตรียมของขึ้นรถเพื่อไปปิกนิกที่สวนสาธารณะอย่างเช่นวันหยุดของทุกอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สวนสาธารณะนั้นเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี เมือทุกอย่างพร้อมแล้วคุณพ่อก็ออกรถเดินทางไม่นานก็ถึงสวนสาธารณะ
          ณ สวนสาธารณะ  วันนี้ดูแปลกตา ดูคนมากกว่าปกติ เมื่อหนูแอนกับหนูเดินผ่านทะเทสาปน้ำจืดสุดสายตา มีคนม่งดูอย่างตั้งใจ  นั่นมันบอลลูนนิน่า คุณพ่อเอยขึ้น คุณแม่ สวนสาธารณะของเรามีบอลลูนด้วยหรือนี่
หนูแอน บอลลูน เหมือนครูได้อธิบายเรื่องนี้ที่เพิ่งเรียนไปแล้ว
หนูนา พี่หนูแอน ทำมันบอลลูนถึงลอยขึ้นและตกลงมาได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นค่ะ

          ถ้านักเรียนเป็นหนูแอนนักเรียนจะอธิบายให้หนูนาได้เข้าใจว่าอย่างไร



ภารกิจ

1. ให้นักเรียน อธิบายหลักการการเคลื่อนที่จากสถานการณ์ปัญหาของหนูแอนและหนูนา
2. ให้นักเรียนอธิปรายและร่วมกันสรุปเป็นแผนผังความคิด (Mind map) การเคลื่อนที่ที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง
3. ให้นักเรียนออกมานำเสนอ แนวคิด หลักการการเคลื่อนที่ จากสถานการณ์หน้าชั้นเรียน



วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การเคลื่อนที่แบบ โพรเจกไทล์ (projectile)


การเคลื่อนที่แบบ โพรเจกไทล์ (projectile) 



การเคลื่อนที่แบบวงกลมของวัตถุ



การเคลื่อนที่แบบวงกลมของวัตถุ



การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง


  การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง




ข้อสอบหลังเรียน

ข้อสอบหลังเรียน

เรื่องการเคลื่อนที่ในแนวตรงและแนวโค้ง  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3    

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวระดับ
ก.ใบพัดของพัดลมหมุนรอบแกน
ข.รถไฟฟ้าวิ่งไปมาตามรางรถ
ค.วันนี้ฝนตกหนักมาก
ง.พายุไต้ฝุ่นพัดแรงมาก

2.ข้อใดไม่ใช่ การตกอิสระของวัตถุ
ก.ก้อนหินตกจากหน้าผา
ข.แอปเปิ้ลร่วงหล่นจากต้นสู่พื้นดิน
ค.เด็กๆ เล่นม้าหมุนในสวนสนุก
ง.สมพงษ์ขี่ม้าลงมาจากเนินเขา

3-5 จากรูป วัตถุเคลื่อนที่แบบใด
ก.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวระดับ
ข.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวดิ่ง
ค.เคลื่อนที่ในแนววงกลม
ง.เคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจกไทล์

4.แรงอะไรที่กระทำต่อวัตถุทำให้วัตถุเคลื่อนที่ตามภาพ
ก.แรงดึงของเชือก
ข.แรงเหวี่ยงของวัตถุ
ค.แรงต้านของอากาศ
ง.แรงเสียดทานของอากาศ

5.แรงที่เกิดขึ้นในเส้นเชือกเรียกว่าแรงอะไร
ก.แรงโน้มถ่วงของวัตถุ
ข.แรงต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ
ค.แรงหนีศูนย์กลาง
ง.แรงสู่ศูนย์กลาง

ให้ใช้สิ่งที่กำหนดต่อไปนี้ประกอบการตอบคำถามข้อ 6-9
1= การกระโดดของกบ     2= รถจักรยานเลี้ยวเข้าทางแยก  
3 = การเคลื่อนที่ของน้ำที่พุ่งออกจากปลายสายยาง  4 = การขี่จักรยานทางโค้งราบ

6.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์
ก.1และ
ข. 1และ 
ค. 2และ3   
ง. 2และ4

7.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่บนทางโค้ง
ก.1และ 
ข. 1และ
ค. 2และ
ง.2และ4

8.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องอาศัยแรงสู่ศูนย์กลาง
ก.1และ
 ข. 1และ
ค. 2และ3
ง.2และ4

9.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วงของโลก
ก.1และ 
ข. 1และ
ค. 1,2และ3  
ง.1,2,3และ4

10.เมื่อขว้างลูกบอลออกไปในแนวราบลูกบอลจะตกอย่างไรเพราะเหตุใด
ก.ตกในแนวดิ่ง เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวดิ่ง
ข.ตกในแนวราบเพราะลูกบอลมีความเร็วตามแนวราบ
ค.ตกในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวราบและความเร็วในแนวดิ่งพร้อมกัน


ง.ตกในแนววิถีโค้งเพราะวัตถุมีความเร็วแบบวงกลม

เฉลยข้อสอบ ก่อน-หลังเรียน

เฉลยข้อสอบ ก่อน-หลังเรียน


1.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวระดับ
ก.ใบพัดของพัดลมหมุนรอบแกน
ข.รถไฟฟ้าวิ่งไปมาตามรางรถ
ค.วันนี้ฝนตกหนักมาก
ง.พายุไต้ฝุ่นพัดแรงมาก

2.ข้อใดไม่ใช่ การตกอิสระของวัตถุ
ก.ก้อนหินตกจากหน้าผา
ข.แอปเปิ้ลร่วงหล่นจากต้นสู่พื้นดิน
ค.เด็กๆ เล่นม้าหมุนในสวนสนุก
ง.สมพงษ์ขี่ม้าลงมาจากเนินเขา

3-5 จากรูป วัตถุเคลื่อนที่แบบใด
ก.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวระดับ
ข.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวดิ่ง
ค.เคลื่อนที่ในแนววงกลม
ง.เคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจกไทล์

4.แรงอะไรที่กระทำต่อวัตถุทำให้วัตถุเคลื่อนที่ตามภาพ
ก.แรงดึงของเชือก
ข.แรงเหวี่ยงของวัตถุ
ค.แรงต้านของอากาศ
ง.แรงเสียดทานของอากาศ

5.แรงที่เกิดขึ้นในเส้นเชือกเรียกว่าแรงอะไร
ก.แรงโน้มถ่วงของวัตถุ
ข.แรงต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ
ค.แรงหนีศูนย์กลาง
ง.แรงสู่ศูนย์กลาง

ให้ใช้สิ่งที่กำหนดต่อไปนี้ประกอบการตอบคำถามข้อ 6-9
1=การกระโดดของกบ 2=รถจักรยานเลี้ยวเข้าทางแยก
3=การเคลื่อนที่ของน้ำที่พุ่งออกจากปลายสายยาง  4=การขี่จักรยานทางโค้งราบ
6.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์
ก.1และ2  
ข. 1และ3  
ค. 2และ3   
ง. 2และ4

7.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่บนทางโค้ง
ก.1และ
 ข. 1และ3
ค. 2และ3  
ง.2และ4

8.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องอาศัยแรงสู่ศูนย์กลาง
ก.1และ2  
ข. 1และ3
ค. 2และ3  
ง.2และ4

9.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วงของโลก
ก.1และ2  
ข. 1และ
ค. 1,2และ3  
ง.1,2,3และ4

10.เมื่อขว้างลูกบอลออกไปในแนวราบลูกบอลจะตกอย่างไรเพราะเหตุใด
ก.ตกในแนวดิ่ง เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวดิ่ง
ข.ตกในแนวราบเพราะลูกบอลมีความเร็วตามแนวราบ
ค.ตกในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวราบและความเร็วในแนวดิ่งพร้อมกัน
ง.ตกในแนววิถีโค้งเพราะวัตถุมีความเร็วแบบวงกลม


ข้อสอบก่อนเรียน

ข้อสอบก่อนเรียน
เรื่อง การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงและแนวโค้ง  
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวระดับ
ก.ใบพัดของพัดลมหมุนรอบแกน
ข.รถไฟฟ้าวิ่งไปมาตามรางรถ
ค.วันนี้ฝนตกหนักมาก
ง.พายุไต้ฝุ่นพัดแรงมาก

2.ข้อใดไม่ใช่ การตกอิสระของวัตถุ
ก.ก้อนหินตกจากหน้าผา
ข.แอปเปิ้ลร่วงหล่นจากต้นสู่พื้นดิน
ค.เด็กๆ เล่นม้าหมุนในสวนสนุก
ง.สมพงษ์ขี่ม้าลงมาจากเนินเขา

3-5 จากรูป วัตถุเคลื่อนที่แบบใด
ก.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวระดับ
ข.เคลื่อนที่แบบตรงในแนวดิ่ง
ค.เคลื่อนที่ในแนววงกลม
ง.เคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจกไทล์

4.แรงอะไรที่กระทำต่อวัตถุทำให้วัตถุเคลื่อนที่ตามภาพ
ก.แรงดึงของเชือก
ข.แรงเหวี่ยงของวัตถุ
ค.แรงต้านของอากาศ
ง.แรงเสียดทานของอากาศ

5.แรงที่เกิดขึ้นในเส้นเชือกเรียกว่าแรงอะไร
ก.แรงโน้มถ่วงของวัตถุ
ข.แรงต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ
ค.แรงหนีศูนย์กลาง
ง.แรงสู่ศูนย์กลาง

ให้ใช้สิ่งที่กำหนดต่อไปนี้ประกอบการตอบคำถามข้อ 6-9
1= การกระโดดของกบ     2= รถจักรยานเลี้ยวเข้าทางแยก  
3 = การเคลื่อนที่ของน้ำที่พุ่งออกจากปลายสายยาง  4 = การขี่จักรยานทางโค้งราบ

6.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่ในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์
ก.1และ
ข. 1และ3  
ค. 2และ3   
ง. 2และ4

7.ข้อใดเป็นการเคลื่อนที่บนทางโค้ง
ก.1และ2  
ข. 1และ
ค. 2และ
ง.2และ4

8.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องอาศัยแรงสู่ศูนย์กลาง
ก.1และ
 ข. 1และ
ค. 2และ3
ง.2และ4

9.การเคลื่อนที่แบบใดที่ต้องสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วงของโลก
ก.1และ2  
ข. 1และ
ค. 1,2และ3  
ง.1,2,3และ4

10.เมื่อขว้างลูกบอลออกไปในแนวราบลูกบอลจะตกอย่างไรเพราะเหตุใด
ก.ตกในแนวดิ่ง เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวดิ่ง
ข.ตกในแนวราบเพราะลูกบอลมีความเร็วตามแนวราบ
ค.ตกในแนวโค้งแบบโพรเจคไทล์เพราะลูกบอลมีความเร็วในแนวราบและความเร็วในแนวดิ่งพร้อมกัน
ง.ตกในแนววิถีโค้งเพราะวัตถุมีความเร็วแบบวงกลม

เฉลยข้อสอบ

แหล่งความรู้ เรื่องการเคลื่อนที่แบบวงกลม


การเคลื่อนที่แบบวงกลม
ดาวเทียมโคจรรอบโลก


การเคลื่อนที่แบบวงกลม หมายถึง การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นวงกลมรอบศูนย์กลาง เกิดขึ้นเนื่องจากวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่จะเดินทางเป็นเส้นตรงเสมอ แต่ขณะนั้นมีแรงดึงวัตถุเข้าสู่ศูนย์กลางของวงกลม เรียกว่า แรงเข้าสู่ศูนย์กลางการเคลื่อนที่ จึงทำให้วัตถุเคลื่อนที่เป็นวงกลมรอบศูนย์กลาง เช่น การโคจรของดวงจันทร์รอบโลก
วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เป็นวงกลม จะต้องมีแรงกระทำต่อวัตถุในทิศเข้าหาศูนย์กลางของวงกลม เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง(centripetal force) แรงนี้จะทำให้วัตถุเปลี่ยนทิศของความเร็วซึ่งอยู่ในแนวเส้นสัมผัสของวงกลมทำให้วัตถุวิ่งเป็นวงกลมอยู่ได้ หากไม่มีแรงสู่ศูนย์กลางกระทำต่อวัตถุ วัตถุจะไม่เคลื่อนที่เป็นวงกลมแต่จะวิ่งไปในแนวเส้นสัมผัสแรงที่ทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลางอาจเป็นแรงเสียดทานที่กระทำต่อวัตถุเมื่อวัตถุสัมผัสกับพื้น หรือเป็นแรงที่พื้นกระทำต่อวัตถุซึ่งแยกแรงมาอยู่ในแนวเข้าสู่ศูนย์กลางได้ กรณีผูกด้วยเชือกแล้วแกว่งเป็นวงกลมในแนวระดับ แรงดึงของเชือกก็จะทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง เป็นต้น


          การเคลื่อนที่แบบวงกลมมีลักษณะเฉพาะ โดยมีการเคลื่อนที่เป็นรอบ จำนวนรอบที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ใน 1 หน่วยเวลา เรียกว่า ความถี่ (frequency) ใช้สัญลักษณ์ f มีหน่วยเป็นรอบต่อวินาทีหรือ เฮิรตซ์ (Hz) และถ้าวัตถุกำลังเคลื่อนที่เป็นวงกลมที่มีรัศมี r ด้วยอัตราสม่ำเสมอ อัตราเร็วของวัตถุ v จะหาได้จากสมการ  
         
ขณะวัตถุกำลังเคลื่อนที่เป็นวงกลม แรงที่ทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง (Fc) จะต้องมีขนาดเท่าใดนั้น จะสัมพันธ์กับมวลของวัตถุ (m) อัตราเร็วของวัตถุ (v) และรัศมีการเคลื่อนที่ (r) 
ตามสมการ  


เครื่องเล่น Tagada Disco ของสยามพาร์คซิตี้ ใช้การหมุนของจานหมุนขนาดใหญ่ให้ผู้เล่นที่นั่งอยู่ขอบจานเคลื่อนที่เป็นวงกลม ระนาบของการหมุนเอียงเล็กน้อยและมีการเขย่าด้วยลูกสูบลมเพื่อให้รู้สึกตื่นเต้น จานหมุนจะมีราวเหล็กและพนักพิงอยู่โดยรอบ ขณะผู้เล่นเคลื่อนที่เป็นวงกลมไปพร้อมจานหมุน ก็จะถูกเหวี่ยงให้อัดตัวเข้ากับพนักพิง เกิดแรงที่พนักพิงดันผู้เล่นในทิศเข้าหาศูนย์กลาง และแรงเสียดทานที่เบาะที่นั่งกระทำต่อผู้เล่นก็มีทิศเข้าหาศูนย์กลางเช่นกัน แรงทั้งสองจึงทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง
ตัวอย่าง
       
รูปที่ 3 การเคลื่อนที่แบบวงกลมหรือส่วนวงกลม

           เพื่อความเข้าใจการเคลื่อนที่เป็นวงกลม  เราควรเริ่มศึกษาจากการเคลื่อนที่เป็นวงกลมที่มีอัตราเร็วคงตัวก่อน  นั่นคือการเคลื่อนที่ที่มีขนาดของความเร็วเท่าเดิม  สม่ำเสมอแต่มีทิศเปลี่ยนไปทีละน้อย

รถไต่ถัง


ดาวเทียมโคจรรอบโลก

ชิงช้าสวรรค์

แหล่งความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง



การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง

การเคลื่อนที่ (Motion) หมายถึง ขบวนการอย่างหนึ่งที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างต่อเนื่องตามเวลาที่ผ่านไป โดยมีทิศทางและระยะทาง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Rectilinear motion) หมายถึง การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เป็นแนวเส้นตรงซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ว เวลา ความเร่ง และระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้ (นันทพงษ์ ลายทอง และคณะ, 2549) ลักษณะการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวซึ่งมีการเคลื่อนที่นั้นจะมีการเคลื่อนที่แตกต่างกันออกไป เช่น การเคลื่อนที่ในแนวตรง แนวโค้ง เป็นวงกลม หรือกลับไปกลับมาในการที่เราจะพิจารณาว่าวัตถุมีการเคลื่อนที่หรือไม่ พิจารณาที่ มีการเปลี่ยนตำแหน่งหรือไม่ ถ้ามีการเปลี่ยนตำแหน่ง ถือเป็นการเคลื่อนที่


การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวระดับ
2. . การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวดิ่ง

1. การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวระดับ
การเคลื่อนที่แนวตรงตามแนวระดับหรือแนวราบของวัตถุ เป็นการเคลื่อนที่ที่ไม่เปลี่ยนทิศทางของวัตถุที่เคลื่อนที่ขนานไปตามพื้นโลก เช่น รถไฟแล่นตรงไปข้างหน้าตามรางรถไฟ รถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์วิ่งไปตามถนนตรง กลุ่มคนวิ่งออกกำลังกายไปตามถนนตรงๆ  การเคลื่อนที่ของลูกมะพร้าวเมื่อตกจากต้นสู่พื้นดิน การเคลื่อนที่ของรถยนต์บนถนนตรง การเคลื่อนที่ของนักกีฬาว่ายน้ำในลู่ของสระ เป็นต้น
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงที่ไปทิศทางเดียวกันตลอด เช่น โยนวัตถุขึ้นไปตรงๆ รถยนต์ กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในแนวเส้นตรง

2. การเคลื่อนที่ในแนวเส้นเส้นตรง แต่มีการเคลื่อนที่กลับทิศด้วย เช่น รถแล่นไปข้างหน้าในแนวเส้นตรง เมื่อรถมีการเลี้ยวกลับทิศทาง ทำให้ทิศทางในการเคลื่อนที่ตรงข้ามกัน


ใบไม้ร่วง


2. . การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวดิ่ง (Motion under gravity)
การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงตามแนวดิ่ง เช่น การตกอิสระหรือการตกแบบเสรี การตกแบบเสรี หมายถึง Free Fall หมายถึง การตกโดยไม่มีสิ่งใดกีดขวางหรือกระทบ เป็นการตกของวัตถุภายใต้แรงดึงดูดของโลกเพียงอย่างเดียวซึ่งเรียกว่า Gravitational acceleration หรือ ค่า g โดยวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง 9.8 เมตรต่อวินาทีกำลังสอง หรือวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น 9.8 เมตรต่อวินาที ทุกๆวินาทีนั้นเอง นั่นคือ ในทุกๆหนึ่งวินาทีวัตถุที่ตกลงสู่พื้นโลกอย่างเสรีจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นประมาณ 9.8 เมตรต่อวินาที การเคลื่อนที่ลักษณะนี้จะไม่คิดแรงต้านของอากาศ เช่น ก้อนหินตกจากหน้าผา ใบไม้ร่วงลงสู่พื้นดิน ผลไม้ร่วงหล่นจากต้น น้ำตกจากหน้าผา ฝนตก เป็นต้น

        ในขณะที่รถยนต์เริ่มเคลื่อนที่บนถนนตรง คนขับจะเหยียบคันเร่งทำให้รถเคลื่อนที่เร็วขึ้น ถ้าสังเกตที่เข็มวัดอัตราเร็วบนหน้าปัดของรถ จะพบว่าเข็มเบนมากขึ้น แสดงว่ารถเคลื่อนที่ด้วย อัตราเร็ว (speed) เพิ่มขึ้น และถ้าพิจารณาทิสของการเคลื่อนที่ด้วย ความเร็ว (velocity) เพิ่มขึ้น ดังรูป


   

 เมื่ออ่านค่าจากเข็มชี้อัตราเร็วของรถที่กำลังเคลื่อนที่ในภาพ ขณะนี้รถเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปทางทิศใต้ หากความเร็วของรถเปลี่ยนแปลง กล่าวได้ว่ารถเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง (acceleration) การเข้าใจปริมาณต่างๆที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นในการขับขี่ยวดยานพาหนะ และนำไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆได้




สมการการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
        เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง คือ การการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงแบบหนึ่ง ดังนั้น สมการในการคำนวณจึงเหมือนกับสมการการเคลื่อนที่ในแนวราบเพียงแต่เปลี่ยนค่า a เป็น g เท่านั้น
 การกำหนดทิศทาง ของ g ซึ่งเป็นความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก โดยปกติ g จะมีทิศลงเสมอ จึงถือว่าวัตถุเคลื่อนที่ลงให้ g เป็นบวก วัตถุเคลื่อนที่ขึ้นให้ g เป็นลบ
เมื่อวัตถุที่ตกแบบเสรี วัตถุจะเคลื่อนที่ลงด้วยความเร่ง g ถ้ากำหนดให้g = 10 m/s2 
แสดงว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ลงมาด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นวินาทีละ 10 เมตรต่อวินาที แต่ถ้าโยนวัตถุนี้ขึ้นในแนวดิ่งวัตถุจะเคลื่อนที่ขึ้นช้าลงความเร่ง –g ถ้าg = 10 m/s2 จะได้ว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ขึ้นด้วยความเร็วลดลงวินาทีละ 10 เมตรต่อวินาที จนกระทั่งความเร็วสุดท้ายเป็น 0 เรียกตำแหน่งนี้ว่า ตำแหน่งสูงสุดของการเคลื่อนที่ของวัตถุ หลังจากนี้วัตถุจะเคลื่อนที่ตกแบบเสรี


การกำหนดทิศของค่า g


อัตราเร็ว คือการเปลี่ยนแปลง ระยะทาง ต่อเวลา
อัตราเร็วเฉลี่ย หน่วย เมตร/วินาที(m/s)
s = ระยะทางที่เคลื่อนที่ได้ (m) ตามแนวเคลื่อนที่จริง
t = เวลาในการเคลื่อนที่ (s)
ความเร็ว คือ การเปลี่ยน แปลงการกระจัด
ความเร็วเฉลี่ย หน่วย เมตร/วินาที (m/s)
s = การกระจัด (m) คือ ระยะทางที่สั้นที่สุดในการย้ายตำแหน่ง หนึ่งไป อีกตำแหน่งหนึ่ง
ความเร่ง คือ อัตราการเปลี่ยน ความเร็ว
s = การกระจัด (m) คือ ระยะทางที่สั้นที่สุดในการย้ายตำแหน่ง หนึ่งไป อีกตำแหน่งหนึ่ง
ความเร่ง คือ อัตราการเปลี่ยน ความเร็ว
ความเร่ง หน่วย เมตรต่อ วินาที2( m/s2)
a = ความเร่ง


ตัวอย่างการเคลื่อนที่

บอลลูน

น้ำตก


การเคลื่อนที่ของรถยนต์
การวิ่งทางตรง